วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โครงงาน ตำนานเกาะหนูเกาะแมวและ นางเงือก



ความเป็นมาของโครงงาน


เนื่องจากนักเรียนต้องการที่จะศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่อง ประวัติความเป็นมาของ เกาะหนูเกาะแมว และ นางเงือกซึ่ง เกาะหนูเกาะแมว และ นางเงือกเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสงขลา ที่ตั้งโดนเด่นอยู่ที่แหลมสมิหลา ใครมาเที่ยวที่จังหวัดสงขลาอันเป็นว่าจะต้องมาถ่ายรูปกับเกาะหนูเกาะแมว และ นางเงือก ถ้าไม่ได้ถ่ายรูปก็ถือว่ายังมาไม่ถึงเมืองสงขลา จึงทำให้ เกิดโครงงานชิ้นนี้ขึ้นมา

วัตถุประสงค์

1.เพื่อศึกษาค้นคว้าประวัติความเป็นมาของเกาะหนูเกาะแมว และ นางเงือก
2. เพื่อฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
3. เพื่อฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม

แผนผังโครงงาน

ชื่อเรื่อง
- โครงงาน ตำนานเกาะหนูเกาะแมวและ นางเงือก
ความเป็นมา
วัตถุประสงค์
แผนผังโครงงาน
ขั้นตอนการดำเนินการ
ผลของการศึกษา
ประโยชน์ของการศึกษา
วิธีการนำเสนอ
แหล่งอ้างอิง

ขั้นตอนการดำเนินงาน

1 วางแผนว่าต้องการจะศึกษาเรื่องอะไร
2. ศึกษาแหล่งข้อมูลสถานที่ที่เราต้องการที่จะศึกษาค้นคว้า
3. มอบหมายงานให้แก่เพื่อนในกลุ่ม
4. ไปศึกษาตามสถานที่ ที่เรากำหนด
5. รวบข้อมูล
6. จัดเข้ารูปเล่ม
7. นำเสนอ

ผลของการศึกษา

หลังจากที่นักเรียนในกลุ่มได้ไปศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประวัตินางเงือก และเกาะหนูเกาะแมวจากนั้นรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว มอบหมายให้สมาชิกทุกคนรับไปจัดพิมพ์เอกสารเนื้อหาทั้งหมด จากนั้นช่วยกันจัดเข้ารูปเล่ม ภายในเล่มประกอบด้วยข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับประวัติความเป็นมาของนางเงือก และเกาะหนูเกาะแมว

ประวัติความเป็นมาของนางเงือก และเกาะหนูเกาะแมว

แหลมสมิหลา อยู่ในเขตเทศบาลเมือง ห่างจากตลาดทรัพย์สิน (ตลาดสดเทศบาล) ประมาณ 2.5 กิโลเมตร มีหาดทรายขาวสะอาด ทิวสนร่มรื่น รูปปั้นนางเงือกอันเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสงขลา และรูปปั้นหนูแมว โดยรอบบริเวณได้จัดสวนหย่อมไว้ดูร่มรื่นเหมาะเป็นที่นั่งพักผ่อนยามเย็น เมี่อมองออกไปในทะเลจะเห็น เกาะหนูเกาะแมว อันเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของแหลมสมิหลา

เกาะหนู - เกาะแมว

ในสมัยอดีตกาลนนานมาแล้ว ครั้งนั้นจังหวัดสงขลายังไม่มีเกาะและภูเขาเหมือนเช่นทุกวันนี้ เรี่องที่จะเกิดมีภูเขาและเกาะต่างๆขึ้นนั้น ก็เนื่องมาจากมีเศรษฐีชาวจีนผู้หนึ่งได้แล่นเรือสำเภามาเมืองไทย และได้จัดซื้อข้าวที่เมืองสงขลาไปขายที่เมืองจีน เศรษฐีนี้มีแก้วสารพัดนึกหรือแก้ววิเศษอยู่อันหนึ่ง ซึ่งแกหวงมากไม่ยอมให้ใครแตะต้อง และได้เก็บไว้ในห้องอย่างมิดชิดมาก กล่าวกันว่าไม่เคย่มีใครได้เข้าไปใกล้ชิดหรือได้เคยเห็นแก้ววิเศษนั้นเลย ครั้นเศรษฐีผู้นี้ก็ได้แล่นเรือมาที่สงขลา เพื่อบรรทุกข้าวไปขายที่เมืองจีนอีก คราวนี้เผอิญมีหนูตัวหนึ่งติดเรือไปด้วย หนูตัวนี้เป็นหนูที่ฉลาดมาก มันรู้ว่าตาเศรษฐีเจ้าของเรือมีแก้ววิเศษ มันก็คิดอยากจะได้มา แล้วมันก็วางแผนที่จะเอามาเป็นของมันอยู่ตลอดเวลา แล้วมันก็ได้ขโมยเอาแก้ววิเศษจากเศรษฐีนั้นมา โดยมันได้คาบลูกแก้วว่ายน้ำมายังสงขลา ฝ่ายเศรษฐีเมื่อรู้ว่าลูกแก้วถูกขโมยก็ตกใจมากประกอบกับเห็นรอยผ้าที่หนูกัดเป็นวงๆก็รู้ทันทีว่าเป็น เข้ามาขโมยไปแน่ๆ ทำให้เศรษฐีเสียใจเป็นอันมาก เศรษฐีผู้นี้แกยังได้เลียงสัตว์ไว้ 3 ตัว คือสุนัข 2 ตัว กับแมว 1 ตัว เจ้าสัตว์ทั้ง 3 ตัวนี้เป็นสัตว์ที่แสนรู้ และมีความกตัญญูมาก เมื่อมันเห็นเจ้านายของมันเศร้าโศกเสียใจก็รู้ทันทีว่าเศรษฐีเป็นอะไรจึงได้พากันออกกระโจนลงทะเล ว่ายน้ำตามหาลูกแก้วมาคืนให้เศรษฐีทันที แมวและสุนัขว่ายน้ำออกตามหาหนูอยู่หลายวันก็อ่อนเพลียไปตามๆกัน หนูก็พยายามว่ายเข้าฝั่งเมืองสงขลา สุนัขและแมวก็ว่ายตามมาอย่างกระชั้นชิด ครั้นใกล้ถึงปากอ่าวเมืองสงขลาหนูก็เห็นสุนัขและแมวว่ายตามมาก็ตกใจกลัว จึงปล่อยแก้ววิเศษที่คาบมานั้นตกลงทะเลไป เมื่อหมดอำนาจของแก้ววิเศษหนูก็หมดแรงไม่สามารถว่าเข้าหาฝั่งได้ประกอบกับทั้งเหนื่อยล้า ฝ่ายแมวก็หมดแรงเหมือนกันดังนั้นทั้งหนูและแมวต่างจมน้ำตายที่ปากอ่าวเมืองสงขลานั้น ส่วนสุนัขมีกำลังมากกว่าก็พยายามว่ายเข้าไปจนถึงฝั่ง แต่ถึงกระนั้นก็พยายามเดินโซซัดโซเซ ไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ล้มลงขาดใจตายด้วยความเหนื่อยและความหิว แก้วสารพัดนึกหรือแก้ววิเศษที่จมอยู่ใต้ท้องทะเลตรงปากอ่าวก็ได้กลายเป็นหาดทรายขึ้นมา และด้วยอานุภาพของแก้ววิเศษก็บันดาลให้หนู และแมวที่จมน้ำตายนั้นกลายเป็นเกาะขึ้นมาเรียกว่า "เกาะหนู" และ "เกาะแมว" มาจนทุกวันนี้ ส่วนซากของสุนัข 2 ตัวก็กลายเป็นภูเขาสองลูกเรียกกันว่า "เขาน้อย" และ "เขาตังกวน" หาดทรายที่เกิดขึ้นเพราะอำนาจแก้ววิเศษก็เลยได้ชื่อว่า "หาดแก้ว" มาจนถึงทุกวันนี้

หมายเหตุ: ที่ชื่อว่าเขาตังกวนนั้น เข้าในกันว่าเพี้ยนมาจากคำว่า "ตาก"

ประวัติจากสถานที่จริง

“มีพ่อค้าชาวจีนผู้หนึ่งคุมเรือสำเภาเดินทางมาค้าขายระหว่างจีนกับสงขลาเป็นประจำ วันหนึ่งพ่อค้าผู้นี้ได้ซื้อหมากับแมวลงเรือไปเมืองจีนด้วย หมากับแมวอยู่บนเรือนานๆเกิดความเบื่อหน่ายจึงปรึกษาหาวิธีการที่จะกลับบ้าน หมากับแมวได้ทราบว่าพ่อค้ามีดวงแก้ววิเศษที่ทำให้ไม่จมน้ำ แมวจึงคิดอุบายโดยให้หนูไปขโมยแก้ววิเศษของพ่อค้ามา และหนูขอหนีขึ้นฝั่งไปด้วย ทั้งสามว่ายน้ำหนีลงจากเรือโดยที่หนูอมดวงแก้วเอาไว้ในปาก ขณะนั้นหนูนึกขึ้นได้ว่าถ้าถึงฝั่ง หมากับแมวคงจะแย่งเอาดวงแก้วไปจึงคิดที่จะหนี ฝ่ายแมวซึ่งว่ายตามหลังมาก็คิดเช่นกัน จึงว่ายน้ำรี่ไปหาหนู หนูตกใจว่ายน้ำหนีไม่ทันระวังตัว ดวงแก้ววิเศษที่อมไว้จึงตกลงจมหายไปในน้ำ หนูและแมวต่างก็หมดแรงจมน้ำตายกลายเป็นเกาะหนูเกาะแมวอยู่ที่อ่าวหน้าเมือง ส่วนหมาตะเกียกตะกายว่ายน้ำไปจนถึงฝั่งและสิ้นใจตายด้วยความเหน็ดเหนื่อยกลายเป็นหินบริเวณเขาตังกวนอยู่ริมอ่าวสงขลา ดวงแก้ววิเศษที่หล่นจากปากหนูแตกละเอียดกลายเป็นหาดทรายแก้วอยู่ทางด้านเหนือของ
แหลมสน”

ประวัติรูปปั้นนางเงือก

รูปปั้นนางเงือกนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2509 ตามดำริของ นายชาญ กาญจนาคพันธุ์ ปลัดจังหวัดสงขลา ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองสงขลาด้วย โดยให้อาจารย์จิตร บัวบุศย์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเพาะช่าง เป็นผู้ปั้นหล่อจากบรอนซ์รมดำ โดยใช้งบประมาณของเทศบาล 60000 บาท ตั้งชื่อว่า เงือกทอง (Golden Mermaid) เป็นสัญลักษณ์ของแหลมสมิหลามาจนทุกวันนี้ นางเงือก เป็นนางในวรรณคดีไทยเรื่องพระอภัยมณีของสุนทรภู่ เอกกวีสมัยรัชกาลที่ 2 (พ.ศ.2352-2367) ตามคำบอกเล่าของขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์) นั้น นิทานปรัมปราไทยเรื่องหนึ่งมีว่า ในคืนท้องฟ้างาม ณ ชายหาดสวยแห่งหนึ่ง จะมีนางเงือกขึ้นจากทะเลมานั่งหวีผมอยู่ คืนหนึ่งมีชายหนุ่มชาวประมงไปพบเข้า นางเงือกตกในหนีลงน้ำไป ทิ้งหวีทองคำไว้ ชาวประมงผู้นั้นเฝ้าแต่รอคอย แต่นางเงือกก็ไม่ปรากฏตัวให้เห็นอีกเลย

ประโยชน์ของการศึกษา

ทำให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวประวัติความเป็นมาของนางเงือก และเกาะหนูเกาะแมว สามารถที่จะนำความรู้ไปเผยแพร่ได้ และยังทำให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สืบเนื่องไปยังการฝึกการทำงานเป็น

วิธีการนำเสนอ

- นำเสนอผ่านทางอินเตอร์เน็ต โดย
http://www.blogger.com/
- นำเสนอเป็นรูปเล่มรายงาน

ความรู้สึกที่มีความรู้ต่อโครงงาน

1. ดีใจที่ได้ทำโครงงานนี้เพราะได้รู้ถึงประวัติของนางเหงือกมากขึ้นและได้รู้ประวัติของเกาะหนูเกาะแมวมากขึ้นอีกด้วย
2. ดีใจมากที่ได้ทำโครงงานประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเมืองสงขลาเกี่ยวกับนางเหงือกและได้รู้ความเป็นมาเกี่ยวกับนางเหงือกที่เรายังไม่ได้รู้
3. รู้สึกปราบปลื้มใจมากๆๆเพราะทำให้เราได้ประโยชน์จากจากไปทำโครงงานที่นางเงือกและเกาะหนูเกาะแมวมากขึ้นทำให้ได้รู้ตำนานนางเงือกมากขึ้นอีกด้วย
4. ดีใจมากที่ได้ทำโครงงานนี้ เพราะเราสามารถบอกถึงความเป็นมาของนางเหงือก

แหล่งอ้างอิง

http://th.wikipedia.org/wiki
http://www.thaitravel.biz/detail_main.php?region=5&province_id=11&class=3&id=1654
http://www.songkhlaportal.com/forums/index.php?topic=308.0